รถยนต์ใหม่ทุกประเภทใน EU จะต้องติดตั้งระบบไฟ Daytime Running Lights (DRL)

รถยนต์ใหม่ทุกประเภทใน EU จะต้องติดตั้งระบบไฟ Daytime Running Lights (DRL)
ตั้งแต่ปี 2554

เอกสารข่าวที่เผยแพร่โดย DG Enterprise and Industry เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2551 แจ้งว่า
คณะกรรมาธิการยุโรปได้ตัดสินใจให้รถยนต์ใหม่ทุกประเภทใน EU จะต้องติดตั้งระบบไฟ Daytime
Running Lights (DRL) ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นไป

ระบบ DRL เป็นหลอดไฟพิเศษ ซึ่งมีสวิทช์เปิดให้แสงสว่างอัตโนมัติ เมื่อมีการสตาร์ทเครื่องยนต์รถ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการมองเห็นรถยนต์ของผู้ใช้ถนนอื่นๆ ได้อย่างมาก และใช้พลังงานต่ำ เปรียบเทียบกับไฟส่องหน้ารถยนต์ (dipped-beam head lamps) ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ทั้งนี้ ในประเทศที่ได้มีข้อบังคับให้ใช้ DRL แล้วพบว่ามีประสบการณ์ด้านความปลอดภัยของถนนในทางบวกมากขึ้นนาย Günter Verheugen รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป รับผิดชอบนโยบายด้านวิสาหกิจและอุตสาหกรรม
กล่าวว่า “การนำระบบ DRL มาใช้ในรถยนต์ รถบรรทุก และรถบัส จะทำให้การมองเห็นดีขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน ส่งผลกระทบทางบวกต่อเป้าหมายในการลดอุบัติเหตุบนท้องถนนของยุโรป และยังใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าไฟส่องหน้ารถยนต์ที่ใช้อยู่ปัจจุบัน”

ทั้งนี้ มีผลงานวิจัยที่ชี้ว่า DRL มีความสำคัญสำหรับความปลอดภัยบนท้องถนน ผู้ใช้ถนน ไม่ว่าจะเป็นคนเดินเท้า ผู้ขับขี่จักรยานและรถยนต์ สามารถตรวจพบ รับรู้ และมองหารถยนต์ได้ดีขึ้นและเร็วขึ้น

การนำ DRL มาใช้เป็นมาตรการบังคับ เกิดขึ้นในการหารือของคณะกรรมาธิการ ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ภาคอุตสาหกรรมและองค์กร NGOs ในเรื่องระบบการจัดทำระเบียบด้านรถยนต์เพื่อให้แข่งขันได้สำหรับศตวรรษที่ 21 หรือ CARS 21 โดยมีมติเห็นชอบเรื่องนี้อย่างเป็นเอกฉันท์ ซึ่งคำสั่งหรือ Directive ในเรื่องนี้คาดการณ์ให้รถใหม่ ทุกประเภทของรถยนต์โดยสารและรถส่งของขนาดเล็กติดตั้งระบบ DRL ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นต้นไป สำหรับรถบรรทุกและรถบัสจะต้องติดตั้งในช่วง 18 เดือนหลังจากนั้น คือเดือนสิงหาคม 2555 เป็นต้นไป

รถยนต์ที่ติดตั้งระบบ DRL จะมีไฟที่มีสวิทช์เปิดอัตโนมัติ เมื่อเครื่องยนต์ถูกสตารท์ โดยในช่วงกลางคืน
ผู้ขับจะต้องเปิดสวิทช์ไฟขับด้วยมือ และระบบ DRL จะปิดเองโดยอัตโนมัติ ในมุมมองด้านสิ่งเวดล้อม
ระบบ DRL จะใช้พลังงานเพียง 25-30 % ของพลังงานที่ใช้โดยไฟขับปกติ และเมื่อใช้ร่วมกับเทคโนโลยี Light Emitting Diode (LED) จะใช้พลังงานลดลงเหลือเพียง 10 %

เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2550 คณะกรรมาธิการได้ลงคะแนนเสียงสนับสนุนเรื่อง DRL ในที่ประชุม UN/ECE เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกำหนดในเรื่องรถยนต์ที่แตกต่างกัน และการตัดสินใจของคณะกรรมาธิการเรื่อง DRL วันนี้ ก็คือการปรับประสาน Directive 76/756/EEC ให้สอดคล้องกับ UN/ECE Regulation No 48

ที่มา http://news.thaieurope.net/content/view/3041/224/